เต่าราคาถูกลง… ยิ่งจุดกระแสความนิยมให้มากขึ้น?

เต่าราคาถูกลง ยิ่งจุดกระแสความนิยมให้มากขึ้นเต่าราคาถูกลง ยิ่งจุดกระแสความนิยมให้มากขึ้น

จากสถิติการค้นหาของคนไทยผ่าน Google ในแต่ละเดือน สิ่งที่ผมเห็นได้ชัดเจนเลยคือ ความนิยมในการเลี้ยงเต่าบกยังคงมาแรงแซงโค้ง โดยเฉพาะ เต่าซูคาต้า ที่มียอดค้นหาสูงถึง 14,900 คนต่อเดือน! ตามมาด้วยเต่าอัลดาบร้า (1,000 คน/เดือน), เต่าดาวอินเดีย (720 คน/เดือน), เต่าเสือดาว (490 คน/เดือน), เต่าดาวพม่า (390 คน/เดือน), เต่าเรดฟุต (260 คน/เดือน) และเต่าเรเดียต้า (170 คน/เดือน) รวมถึงเต่าบกสายพันธุ์อื่นๆ อย่างเต่ารัสเซีย, เต่ากรีก, เต่าเฮอร์มานนี่ ก็มียอดค้นหาหลักร้อยคนต่อเดือนเช่นกัน

ส่วนฝั่งเต่าน้ำเองก็ใช่ย่อย เต่าญี่ปุ่น (เต่าแก้มแดง) ครองแชมป์ด้วยยอดค้นหา 6,600 คนต่อเดือน ตามมาด้วยเต่าอัลลิเกเตอร์ (1,900 คน/เดือน), เต่ายิ้ม (390 คน/เดือน) และเต่าคอมม่อนสแนปปิ้ง (170 คน/เดือน)

สิ่งเหล่านี้บอกอะไรเราในฐานะคนเลี้ยงเต่า?

สำหรับผมแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากตัวเลขเหล่านี้คือ ความนิยมไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “ราคา” เสมอไป และในหลายๆ กรณี “ยิ่งราคาถูกลง คนยิ่งนิยมเลี้ยงมากขึ้น” ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? ผมวิเคราะห์ได้ดังนี้ครับ:

👉 การเข้าถึงที่ง่ายขึ้น: เมื่อราคาลูกเต่าลดลง ผู้คนจำนวนมากขึ้นสามารถเข้าถึงและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้งบประมาณสูง ทำให้คนที่ไม่เคยคิดจะเลี้ยงเต่า อาจจะลองเปิดใจเลี้ยงดูบ้าง

👉 ความแพร่หลายของข้อมูล: เต่าที่ได้รับความนิยมสูง มักจะมีข้อมูลการเลี้ยงดู การดูแลสุขภาพ หรือแม้กระทั่งการหาซื้ออาหารและอุปกรณ์ต่างๆ ที่หาได้ง่ายกว่าตามอินเทอร์เน็ตหรือกลุ่มคนเลี้ยงเต่า ทำให้ผู้เลี้ยงมือใหม่รู้สึกอุ่นใจและมั่นใจมากขึ้น

👉 กระแสสังคมและการตลาด: เต่าซูคาต้าและเต่าญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการตลาดและการรับรู้ในวงกว้างมีผลอย่างมาก เต่าทั้งสองชนิดนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีการพูดถึงและแชร์ภาพกันในโซเชียลมีเดียอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดกระแสความนิยมที่ส่งต่อกันไปเรื่อยๆ โดยที่ผู้เลี้ยงบางคนอาจจะไม่ได้ศึกษาลึกซึ้งถึงวิธีการเลี้ยงที่เหมาะสมกับสายพันธุ์นั้นๆ อย่างถ่องแท้

สำหรับผู้สนใจเลี้ยงเต่าบกหรือเต่าน้ำเพื่อสร้างรายได้ จากข้อมูลทั้งหมดนี้ ในฐานะเจ้าของฟาร์มเต่า ผมมองว่าสิ่งสำคัญคือการ วิเคราะห์ความต้องการของตลาด ให้ขาดครับ:

✅ เน้นสายพันธุ์ยอดนิยม: การเพาะเลี้ยงเต่าที่ได้รับความนิยมสูงอย่างเต่าซูคาต้าและเต่าญี่ปุ่น ยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพในการสร้างรายได้สูง เพราะมีฐานลูกค้าที่กว้างขวางและมีการรับรู้ในตลาดดีอยู่แล้ว

✅ สร้างการรับรู้ให้สายพันธุ์อื่นๆ: ในขณะเดียวกัน การส่งเสริมการตลาดและให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเต่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อขยายตลาดและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้เลี้ยงในอนาคต

✅ ให้ความรู้ที่ถูกต้อง: สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการให้ความรู้และข้อมูลการเลี้ยงดูที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเต่าแต่ละสายพันธุ์แก่ผู้เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นเต่าราคาถูกหรือแพง เพื่อให้มั่นใจว่าน้องเต่าทุกตัวจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดครับ

นอกจากนี้แล้ว ตลาดต่างประเทศ ก็มีพฤติกรรมการค้นหาผ่าน Google คล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นตลาดจีน ตลาดญี่ปุ่น ตลาดอเมริกา ตลาดเอเชียหรือตะวันตกประเทศอื่น ๆ ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน

อย่าลืมว่า ตลาดโลกนั้นกว้างใหญ่ และมีความต้องการอีกจำนวนมากที่จะเลี้ยงเต่าเป็นสัตว์เลี้ยงนะครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *