ถึงลูกเต่าซูคาต้าจะราคาดรอป แต่อย่าลืมว่าเราคือ… ผู้กำหนดเกม!

ช่วงนี้ตลาดลูกเต่าซูคาต้าอาจจะซบเซาลงไปบ้าง ทำให้หลายคนรู้สึกท้อแท้และเป็นกังวล

ในฐานะเจ้าของฟาร์มเต่า ผมอยากจะบอกว่า “อย่าเพิ่งหมดหวัง” นะครับ เพราะในความเป็นจริง คนที่ผลิตลูกเต่าซูคาต้าจำนวนมากอย่างพวกเรานี่แหละครับ คือคนกำหนดราคาตลาดที่แท้จริง

ผมอยากชวนให้เรามามองภาพใหญ่ร่วมกันครับ แทนที่เราจะแข่งกันกดราคา แข่งกันถูก ใครถูกกว่าคนนั้นชนะ มันอาจจะทำให้ทุกคนเหนื่อยและไม่ได้อะไรเลยในระยะยาว แต่เรามาลองเน้นการ “สร้างคุณค่า” ที่มากขึ้นกันดีกว่าไหมครับ?

ลองนึกภาพดูนะครับ ว่าเราสามารถเพิ่มอะไรให้ลูกเต่าของเรามีคุณค่ามากกว่าแค่ “ราคาถูก” ได้บ้าง:

การรับประกันสุขภาพ:

มีอะไรจะดีไปกว่าการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าลูกเต่าที่ได้รับไปนั้นสุขภาพแข็งแรง?

การให้ ระยะเวลาการรับประกัน สุขภาพ 7-14 วัน หรือมากกว่านั้น เป็นสิ่งที่สร้างความน่าเชื่อถือได้มากครับ เพราะแต่ละฟาร์มที่เพาะลูกเต่าได้ จะมีการรับประกันที่ไม่เหมือนกัน สิ่งเหล่านี้ ยิ่งสามารถรับประกันระยะเวลาที่นานขึ้นได้ ยิ่งทำให้ผู้บริโภคที่เป็นลูกค้ามั่นใจในสุขภาพของลูกเต่าที่จะซื้อจากฟาร์มของเรา

การรับรองมาตรฐานการให้บริการ:

การดูแลจัดการฟาร์มที่ดี สะอาด มีมาตรฐาน ก็สะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพของเรา เพราะไม่ใช่ทุกฟาร์มที่จะทำให้สถานที่เลี้ยงสะอาดและมีมาตรฐานได้ การพัฒนาสถานที่เลี้ยงให้สะอาด และถูกต้องตามกฎหมายฯ สามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ เพราะถ้าเราใส่ใจสถานที่เลี้ยงเต่าของเราให้สะอาด ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เพราะนั่นแปลว่า เราใส่ใจเต่าของเรา และเราจะใส่ใจลูกค้าของเราเช่นกัน

บริการหลังการขายแบบตลอดชีพ:

ใคร ๆ ก็อยากได้คำแนะนำดี ๆ ในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงที่รักไปตลอดชีวิตจริงไหมครับ?

การที่เราพร้อมให้คำปรึกษา คำแนะนำในการเลี้ยงดูตลอดอายุไขของเต่าหรือตลอดการเลี้ยงดูของลูกค้าของเรา จะช่วยสร้างความประทับใจและความผูกพันกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งคุณค่าส่วนนี้ ยังเป็นสิ่งที่กระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้มาก เพราะไม่ว่าราคาลูกเต่าของเราจะสูงกว่าตลาดอย่างไร แต่ถ้าเรานำเสนอคุณค่าส่วนนี้ให้ชัดเจนได้ จะสามารถปิดการขายได้แน่นอนครับ

ความแตกต่างในแบบของคุณ:

เต่าแต่ละตัวก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันไปตามพ่อแม่พันธุ์ของแต่ละฟาร์ม และที่สำคัญคือ บุคลิกของเจ้าของฟาร์ม ครับ!

ความเป็นกันเอง ความรู้ความสามารถ การดูแลลูกค้า ฯลฯ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็น “แบรนด์” เฉพาะตัวของฟาร์มเรา ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่สามารถลอกเลียนแบบได้

เราไม่ใช่ศัตรูที่ต้องแข่งกันตัดราคา หรือไม่ชอบหน้ากัน แต่เราคือคนในวงการเดียวกัน ที่มีความรักในเต่าเหมือนกัน เราต้อง จับมือเดินไปด้วยกัน ครับ

เมื่อเราแต่ละฟาร์มสามารถสร้างคุณค่าของผลผลิต (ลูกเต่า) ให้มากขึ้น จนเหมาะสมกับราคาที่เราต้องการจะขายได้ (ต้องสร้างช่องทางการขายของตนเองด้วยนะครับ เช่น ติ๊กต๊อก ยูทูป เฟสบุ๊ค หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ) ผู้บริโภคก็จะรู้สึกคุ้มค่าที่จะจ่ายเงินออกไป ไม่ว่าช่วงนี้เศรษฐกิจจะตึงตัวแค่ไหนก็ตาม คุณค่าที่เหมาะสมก็จะยังคงสามารถขายออกไปได้ ภายใต้ช่องทางการขายและแบรนด์ที่แข็งแกร่งของตัวเราเอง

มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้องเต่าของเรากันเถอะครับ แล้วเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันอย่างแข็งแกร่ง!

• Facebook
• Line