5 โรคที่พบบ่อยในเต่าซูคาต้าและวิธีป้องกันเบื้องต้น

สำหรับคนรักเต่าซูคาต้า การได้เห็นเจ้าเต่ายักษ์น้อย (หรือยักษ์ใหญ่!) เดินเล่นอย่างร่าเริงและมีสุขภาพดีคือความสุขอย่างแท้จริง แต่เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงทุกชนิด เต่าซูคาต้าก็มีโอกาสเจ็บป่วยได้เช่นกัน การรู้เท่าทันโรคที่พบบ่อยและรู้วิธีป้องกันเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เพื่อนซี้กระดองแข็งแรงอยู่กับเราไปนานๆ บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จัก 5 โรคยอดฮิตในเต่าซูคาต้า พร้อมวิธีป้องกันง่ายๆ ที่ทำได้เองที่บ้าน

1. โรคนิ่ว (Bladder Stones)

โรคนิ่วเป็นปัญหาที่พบบ่อยในเต่าซูคาต้า โดยเฉพาะเต่าที่ได้รับน้ำไม่เพียงพอ หรือกินอาหารที่มีโปรตีนและฟอสฟอรัสสูงเกินไป รวมถึงอาหารที่มีกรดออกซาลิกสูงอย่างผักโขมหรือปวยเล้งในปริมาณมาก ซึ่งอาจนำไปสู่การสะสมของผลึกในกระเพาะปัสสาวะ

อาการที่สังเกตได้: เต่าอาจมีอาการซึม เบื่ออาหาร ท้องผูก หรือปัสสาวะลำบาก บางครั้งอาจเห็นเม็ดกรดยูริคสีขาวปนออกมากับปัสสาวะ

วิธีป้องกันเบื้องต้น:

  • ให้น้ำเพียงพอ: ควรจัดเตรียมถาดน้ำตื้นๆ ให้เต่าแช่ตัวและดื่มน้ำได้อย่างอิสระ การแช่น้ำอุ่น (อุณหภูมิห้อง) อย่างสม่ำเสมอ วันละ 15-30 นาที จะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและขับสารพิษ
  • อาหารสมดุล: เน้นอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น หญ้าหลากหลายชนิด และพืชผักใบเขียวที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโปรตีนสูงเกินไป
  • เสริมแคลเซียม: ให้แคลเซียมเสริมที่ปราศจากฟอสฟอรัสเป็นประจำ ควบคู่กับการได้รับแสงแดดธรรมชาติหรือหลอดไฟ UVB ที่เพียงพอ

2. โรคหวัดและปอดบวม (Respiratory Infections)

โรคระบบทางเดินหายใจมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รวดเร็ว ความชื้นที่ไม่เหมาะสม หรือสภาพแวดล้อมที่สกปรก ทำให้เต่าอ่อนแอและติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสได้ง่าย

อาการที่สังเกตได้: เต่าอาจมีน้ำมูกไหลออกจากจมูก (ใสหรือข้น), มีฟองอากาศออกจากจมูกหรือปาก, หายใจลำบาก, อ้าปากค้าง, ซึม, เบื่ออาหาร, และอาจได้ยินเสียงผิดปกติขณะหายใจ

วิธีป้องกันเบื้องต้น:

  • ควบคุมอุณหภูมิ: รักษาอุณหภูมิในพื้นที่เลี้ยงให้คงที่และเหมาะสม ไม่ร้อนหรือหนาวจัดเกินไป
  • จัดการความชื้น: รักษาความชื้นในพื้นที่เลี้ยงให้เหมาะสม ไม่แห้งหรือชื้นเกินไป
  • ความสะอาด: ทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค
  • แสงแดด/UVB: ให้เต่าได้รับแสงแดดธรรมชาติหรือหลอดไฟ UVB ที่เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

3. โรคกระดองนิ่มหรือผิดรูป (Metabolic Bone Disease – MBD) / โรคกระดองปิรามิด (Pyramiding)

โรค MBD เป็นภาวะที่กระดูกและกระดองไม่แข็งแรง เกิดจากการขาดแคลเซียม วิตามิน D3 และแสง UVB ที่เพียงพอ ส่วนโรคกระดองปิรามิดคือภาวะที่กระดองของเต่าเจริญเติบโตผิดปกติ มีลักษณะเป็นปุ่มนูนคล้ายพีระมิด มักเกิดจากความชื้นไม่เพียงพอและการได้รับโปรตีนมากเกินไปในช่วงวัยเจริญเติบโต

อาการที่สังเกตได้: กระดองนิ่มหรือผิดรูป, ขาบิดเบี้ยว, เดินลำบาก, ในกรณีของ Pyramiding กระดองจะนูนเป็นเหลี่ยมๆ อย่างเห็นได้ชัด

วิธีป้องกันเบื้องต้น:

  • แสงแดด/UVB ที่เพียงพอ: เต่าต้องการแสง UVB เพื่อสังเคราะห์วิตามิน D3 ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียม หากเลี้ยงในร่ม ควรใช้หลอดไฟ UVB สำหรับสัตว์เลื้อยคลาน
  • เสริมแคลเซียมและวิตามิน D3: ให้แคลเซียมเสริมที่ปราศจากฟอสฟอรัสเป็นประจำ อาจพิจารณาให้วิตามิน D3 เสริมในกรณีที่เต่าไม่ได้รับแสง UVB เพียงพอ (ปรึกษาสัตวแพทย์)
  • ควบคุมอาหาร: เน้นอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและโปรตีนต่ำ (สำหรับลูกเต่า) หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโปรตีนสูงเกินความจำเป็น
  • ความชื้นที่เหมาะสม: โดยเฉพาะลูกเต่า ควรได้รับความชื้นที่สูงกว่าเต่าโต เพื่อช่วยให้กระดองเจริญเติบโตได้เรียบเนียน

4. การติดเชื้อที่ตาและผิวหนัง (Eye and Skin Infections)

การติดเชื้อเหล่านี้มักเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด มีเชื้อโรคสะสม หรือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ตาหรือผิวหนังแล้วไม่ได้รับการดูแล

อาการที่สังเกตได้: ตาบวมแดง, มีน้ำตาไหล, เปลือกตาปิด, มีหนองที่ตา, มีแผลหรือรอยแดงตามผิวหนัง, กระดองมีรอยด่างหรือแผล

วิธีป้องกันเบื้องต้น:

  • รักษาความสะอาด: ทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยง ภาชนะใส่อาหารและน้ำอย่างสม่ำเสมอ
  • สังเกตการณ์: ตรวจสอบเต่าเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณของการบาดเจ็บหรือการติดเชื้อ
  • สุขอนามัยที่ดี: ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการสัมผัสเต่า

5. ปรสิตภายในและภายนอก (Internal and External Parasites)

ปรสิตเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในสัตว์เลี้ยง หากไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและทำให้เต่าอ่อนแอลงได้

ปรสิตภายใน: เช่น พยาธิในลำไส้ มักเกิดจากการกินอาหารหรือน้ำที่มีไข่พยาธิปนเปื้อน อาการที่สังเกตได้: เต่าอาจผอมลงทั้งที่กินอาหารปกติ, อุจจาระเหลวหรือมีมูกเลือดปน, ซึม

ปรสิตภายนอก: เช่น เห็บ ไร มักพบได้ตามผิวหนัง ซอกขา หรือใต้กระดอง อาการที่สังเกตได้: เต่าเกาหรือถูตัวบ่อยๆ, เห็นตัวปรสิตบนตัวเต่า, ผิวหนังแดงเป็นจ้ำ

วิธีป้องกันเบื้องต้น:

  • ความสะอาด: ทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยงและภาชนะต่างๆ เพื่อลดแหล่งสะสมของปรสิต
  • อาหารและน้ำสะอาด: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอาหารและน้ำที่ให้เต่าสะอาด ปราศจากการปนเปื้อน
  • ตรวจสุขภาพประจำปี: พาเต่าไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลื้อยคลาน เพื่อตรวจหาและถ่ายพยาธิเป็นประจำ