หัวใจสำคัญของการเลี้ยงเต่าอัลดาบร้าให้มีสุขภาพดี กระดองสวยงาม และอายุยืนยาว ก็คือ “อาหาร” ที่ถูกต้องและเหมาะสม เต่าอัลดาบร้าเป็นสัตว์กินพืช (Herbivore) อย่างแท้จริง ระบบย่อยอาหารของพวกมันถูกออกแบบมาเพื่อย่อยอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและโปรตีนต่ำ การเลือกอาหารที่ถูกต้องจึงเปรียบเสมือนการมอบของขวัญที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนยักษ์ใหญ่ของเรา
ลืมอาหารเม็ดสำเร็จรูปไปก่อน แล้วมาดูกันว่า 10 สุดยอดผักและหญ้าที่เต่าอัลดาบร้าโปรดปรานและเปี่ยมด้วยคุณประโยชน์นั้นมีอะไรบ้าง
10 สุดยอดอาหารสำหรับเต่าอัลดาบร้า
1. หญ้าแพงโกล่า (Pangola Grass)
ราชาแห่งอาหารเต่า! หญ้าแพงโกล่าคืออาหารหลักที่ดีที่สุด เพราะมีไฟเบอร์สูงมาก ซึ่งจำเป็นต่อระบบขับถ่ายที่ดีของเต่า อีกทั้งยังมีแคลเซียมในระดับที่เหมาะสม สามารถให้เป็นอาหารหลักได้ทุกวันโดยไม่ต้องกังวล
- เคล็ดลับ: ควรปลูกไว้ในพื้นที่เลี้ยงเพื่อให้เต่าได้เดินเล็มเองตามธรรมชาติ หรือตัดสดให้กินทุกวัน
2. หญ้าขน (Signal Grass)
อีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและหาได้ง่ายในประเทศไทย หญ้าขนมีลักษณะคล้ายกับหญ้าแพงโกล่า คือมีไฟเบอร์สูงและเป็นที่ชื่นชอบของเต่า สามารถใช้สลับกับหญ้าแพงโกล่าเพื่อเพิ่มความหลากหลาย
3. ใบหม่อน (Mulberry Leaves)
นี่คือของโปรดที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ ใบหม่อนมีแคลเซียมสูงและมีโปรตีนในระดับที่เหมาะสม ช่วยบำรุงกระดูกและกระดองให้แข็งแรง เต่าอัลดาบร้าส่วนใหญ่จะวิ่งเข้าใส่เมื่อเห็นใบหม่อน
- เคล็ดลับ: สามารถให้ได้บ่อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือให้เป็นรางวัล
4. ใบและดอกชบา (Hibiscus Leaves & Flowers)
ทั้งใบและดอกชบาคืออาหารชั้นเลิศจากธรรมชาติที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะแคลเซียมและวิตามินต่างๆ เป็นเหมือนสลัดดอกไม้ที่เต่าอัลดาบร้าเพลิดเพลินได้เสมอ
5. ใบยอ (Noni Leaves)
อาจเป็นเมนูที่หลายคนนึกไม่ถึง แต่ใบยอเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุชั้นดี มีสรรพคุณทางยาอ่อนๆ และเป็นที่ชื่นชอบของเต่าบกหลายชนิดรวมถึงอัลดาบร้าด้วย
6. ผักบุ้ง (Morning Glory)
ผักที่หาซื้อง่ายและมีวิตามินเอสูง ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพตาและระบบภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตาม ผักบุ้งมีสารออกซาเลต (Oxalate) อยู่บ้าง จึงควรให้ในปริมาณที่พอเหมาะ สลับกับผักชนิดอื่น ไม่ควรให้เป็นอาหารหลักเพียงอย่างเดียว
7. ฟักทอง (Pumpkin)
แหล่งวิตามินเอและไฟเบอร์ชั้นเยี่ยม ช่วยในเรื่องการขับถ่ายได้ดีมาก สามารถให้ได้ทั้งเนื้อและเปลือก (หากเป็นฟักทองอ่อน) ควรหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หรือขูดเป็นเส้นเพื่อให้เต่ากินง่ายขึ้น
8. แครอท (Carrot)
เช่นเดียวกับฟักทอง แครอทอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน (ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ) ควรขูดฝอยหรือหั่นบางๆ แล้วให้ในปริมาณไม่มากนัก เพราะมีน้ำตาลธรรมชาติอยู่พอสมควร
9. ต้นและใบกระบองเพชร (Opuntia Cactus Pads)
สุดยอดอาหารที่เต็มไปด้วยแคลเซียมและน้ำ เหมาะสำหรับเต่าอย่างยิ่ง ช่วยให้เต่าได้รับน้ำเพิ่มเติมตามธรรมชาติ ต้องแน่ใจว่าเป็นพันธุ์ที่ไม่มีหนามแหลมคม (หรือต้องลนไฟเพื่อเอาหนามออกให้หมดก่อน)
10. ต้นอ่อนข้าวสาลี (Wheatgrass)
เป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” สำหรับเต่า เต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และคลอโรฟิลล์ สามารถปลูกเองได้ง่ายในถาดเพาะ และตัดให้เต่ากินได้ทั้งต้น เป็นการเพิ่มสารอาหารที่ยอดเยี่ยมให้กับมื้ออาหาร
กฎทองคำแห่งการให้อาหาร: ความหลากหลายคือหัวใจ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ “อย่าให้แต่อาหารชนิดเดียวซ้ำๆ” การให้อาหารที่หลากหลายจะช่วยให้เต่าได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล ในแต่ละมื้อควรผสมผักและหญ้าอย่างน้อย 3-5 ชนิดเข้าด้วยกัน โดยมี “หญ้า” เป็นสัดส่วนหลัก (ประมาณ 80%) และอีก 20% เป็นผักใบเขียวและพืชชนิดอื่นๆ
อาหารเสริมที่จำเป็น
- ผงแคลเซียม: เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้! โดยเฉพาะสำหรับลูกเต่าและเต่ารุ่นที่กำลังเจริญเติบโต ควรเลือกใช้ผงแคลเซียมบริสุทธิ์ (ที่ไม่มีฟอสฟอรัสและวิตามินดี) โรยบนอาหาร 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
- วิตามินดี 3 (D3): หากเต่าของคุณถูกเลี้ยงในร่มและได้รับแสง UVB จากหลอดไฟ ควรใช้แคลเซียมที่ผสมวิตามินดี 3 แต่ถ้าเต่าได้อาบแดดธรรมชาติเป็นประจำ ก็ไม่จำเป็น
อาหารและพืชที่ควรหลีกเลี่ยง
- ผักที่มีสารออกซาเลตสูง: เช่น ผักโขม, ปวยเล้ง, บีทรูท (สารนี้จะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม)
- ผักตระกูลกะหล่ำ: เช่น กะหล่ำปลี, บรอกโคลี, กะหล่ำดอก (มีสารกอยโตรเจนที่อาจส่งผลต่อต่อมไทรอยด์หากให้ในปริมาณมาก)
- ผลไม้: ควรให้เป็นแค่นานๆ ครั้งในปริมาณที่น้อยมากๆ เพราะมีน้ำตาลสูง อาจทำให้ท้องอืดและเกิดพยาธิได้
- อาหารคน: ขนมปัง, ข้าว, เนื้อสัตว์, อาหารสุนัข/แมว เป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาด!
- พืชพิษ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าในบริเวณที่เลี้ยงไม่มีพืชที่เป็นพิษ เช่น ยี่โถ, บอนสี, สาวน้อยประแป้ง
การใส่ใจเลือกสรรอาหารที่ดีและหลากหลาย ไม่เพียงแต่จะทำให้เต่าอัลดาบร้าของคุณเติบโตอย่างแข็งแรง แต่ยังเป็นการแสดงความรักและความผูกพัน ที่จะทำให้เขาอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน
